“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กลับมาคว้าชัยในลีกได้สำเร็จ หลังเปิดบ้านเอาชนะ บอร์นมัธ 2-1 ขยับเข้าใกล้ตำแหน่งแชมป์เข้าไปทุกขณะ แต่กับเกมนัดนี้ต้องบอกว่าลุ้นเหมือนกันกว่าจะหยิบ 3 แต้มในบ้านของตัวเอง เกิดอะไรขึ้นบ้แม้เกมรับของ บอร์นมัธ จะไม่เด็ดขาดมากพอที่จะรับมือกับแนวรุกของ ลิเวอร์พูล อย่างที่ แอตเลติโก มาดริด หรือ วัตฟอร์ด เคยทำได้ แต่แนวรุกของพวกเขาก็สร้างความกดดันให้กับ หงส์แดง อย่างเห็นได้ชัด

คัลลัม วิลสัน ที่มักเคลื่อนที่ลงต่ำมีส่วนร่วมกับการช่วยไล่บอลที่แดนกลางก่อนที่เขาจะกลายเป็นคนทำประตูเบิกร่อง ทว่าความผิดพลาดส่วนบุคคลของ แจ็ค ซิมพ์สัน ที่ดันเสียบอลหน้าปากประตูของตนเองก็กลายเป็นจุดเปลี่ยนของเกมให้ทีมถูกตีเสมอในช่วงกลางครึ่งแรกก่อนที่พวกเขาจะเป๋เสียประตูที่ 2 ในอีกไม่กี่อึดใจให้หลังางไปดูกัน

กองหน้าชาว อังกฤษ​ วัย 28 ปีสามารถต่อกรกับแนวรับอย่าง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ และ โจ โกเมซ ได้อย่างน่ประทับใจแม้ว่าเพื่อนร่วมทีมของเขาจะไม่สามารเปิดป้อนบอลสร้างสรรค์โอกาสได้บ่อยครั้งนักก็ตาม

Liverpool’s Egyptian midfielder Mohamed Salah reacts at the final whistle during the English Premier League football match between Liverpool and Bournemouth at Anfield in Liverpool, north west England on March 7, 2020. (Photo by GEOFF CADDICK / AFP) / RESTRICTED TO EDITORIAL USE. No use with unauthorized audio, video, data, fixture lists, club/league logos or ‘live’ services. Online in-match use limited to 120 images. An additional 40 images may be used in extra time. No video emulation. Social media in-match use limited to 120 images. An additional 40 images may be used in extra time. No use in betting publications, games or single club/league/player publications. / (Photo by GEOFF CADDICK/AFP via Getty Images)

วิลสัน กลายเป็นศูนย์กลางของแนวรุก เชอร์รีส์ แทบทุกครั้งที่พวกเขาเดินหน้าล่าประตู และจะเป็นส่วนสำคัญในการดิ้นรนหนีพื้นที่ตกชั้นในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล รวมทั้งการติดทัพ ทรีไลอ้อนส์ ไปลุยศึก ยูโร 2020 ในช่วงซัมเมอร์นี้กลายเป็นเกมที่ เจมส์ มิลเนอร์ ที่ออกสตาร์ทในตำแหน่งแบ็คซ้ายแทนที่ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือล้นอย่างต่อเนื่อง ต่างจาก โจ โกเมซ​ ซึ่งถูก คัลลัม วิลสัน ฉวยโอกาสชิงบอลในแนวรับก่อนเป็นเหตุให้เสียประตูแรก

หงส์แดง ยังดูจะออกอาการเป๋ต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงต้นเกมเมื่อเป็นลูกทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว ที่สร้างโอกาสได้เด็ดขาดมากกว่า แต่ท้ายที่สุด ความเด็ดขาดของ ซาดิโอ มาเน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และวิสัยทัศน์ของ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ก็ช่วยเปลี่ยนโมเมนตัมของเกมได้ในที่สุดกลายเป็นเกมที่ เจมส์ มิลเนอร์ ที่ออกสตาร์ทในตำแหน่งแบ็คซ้ายแทนที่ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือล้นอย่างต่อเนื่อง ต่างจาก โจ โกเมซ​ ซึ่งถูก คัลลัม วิลสัน ฉวยโอกาสชิงบอลในแนวรับก่อนเป็นเหตุให้เสียประตูแรก

หงส์แดง ยังดูจะออกอาการเป๋ต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงต้นเกมเมื่อเป็นลูกทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว ที่สร้างโอกาสได้เด็ดขาดมากกว่า แต่ท้ายที่สุด ความเด็ดขาดของ ซาดิโอ มาเน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และวิสัยทัศน์ของ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ก็ช่วยเปลี่ยนโมเมนตัมของเกมได้ในที่สุดปราการหลังทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ได้ 1 แอสซิสต์เมื่อเป็นคนผ่านบอลทะลุช่องให้กับ มาเน พังประตูแซงขึ้นนำ 2-1 และกลายเป็นประตูชัยในที่สุด

Author