“สิงโตคำราม” เจองานเบาหลังเปิดเวมบลี่ย์ สเตเดี้ยมไล่ถล่ม บัลแกเรีย ทีมบ๊วยแบบขาดลอย 4-0 นัดนี้ แฮร์รี่ เคน หัวหอกตัวเก่งตะบันแฮตทริก พาทีมเฮสามนัดรวดมี 9 แต้มเต็ม และยิงคู่แข่งไป 14 ประตู นำฝูงกลุ่ม เอ ศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม

“สิงโตคำราม” เพิ่งลงเล่นใน ยูโร 2020 รอบคัดเลือกมาสองเกมโดยคว้าชัยมาแบบขาดลอยทั้งสองนัดมี 6 คะแนน เกมนี้เปิด เวมบลีย์ สเตเดี้ยม รับมือ บัลแกเรีย ที่เล่นมา 4 เกมแล้วไม่ชนะทีมใดเลย (เสมอ 2 แพ้ 2) รั้งอยู่บ๊วยของกลุ่ม เอ

เกมนี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต ส่ง เดแคลน ไรซ์ ลงคุมกลางร่วมกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และรอสส์ บาร์คลี่ย์ ส่วนสามแนวรุกเลือกใช้ มาร์คัส แรชฟอร์ด, แฮร์รี่ เคน และราฮีม สเตอร์ลิง

ครึ่งแรกเริ่มเกมมาได้แค่ 5 นาที กลายเป็น บัลแกเรีย ที่ได้ทักทายก่อนหลัง วานแดร์ซอน ได้อัดด้วยซ้ายเต็มแรงแต่บอลยังไปติดเซฟของ จอร์แดน พิคฟอร์ด

กระนั้นทัพ “สิงโตคำราม” มาชิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 จนได้ ในนาที 24 จากความผิดพลาดของ ปลาเมน อิลิเยฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือนที่ออกบอลพลาดจนโดน ราฮีม สเตอร์ลิง  แย่งบอลจนถึงเส้นหลังแล้วตบมาเสาแรกให้ แฮร์รี่ เคน ยิงด้วยขวาเสาแรกเข้าไป

นาที 31 นานๆทีมเยือนจะได้ตอบโต้ขึ้นมา สตราฮิล โปปอฟ แบ็กขวาเติมขึ้นสูงก่อนครอสมาเข้าหัว กาลิน อิวานอฟ แต่บอลยังเบาไปก่อนเข้ามือ พิคฟอร์ด

ช่วงทดเจ็บท้ายครึ่งแรกทัพผู้ดีได้ลุ้นอีก หลัง รอสส์ บาร์คลี่ย์ เปิดบอลมาให้ แฮร์รี่ เคน โหม่งแต่บอลยังไปติดบล็อค จอร์จี้ ซาร์มอฟออกหลังไป

จบครึ่งแรก อังกฤษ ขึ้นนำ บัลแกเรีย 1-0

ครึ่งหลัง เริ่มมาได้แค่ นาที 48 เจ้าถิ่นมาได้ลูกจุดโทษหลัง มาร์คัส แรชฟอร์ด โดน นิโคไล โบดูรอฟ รวบล้มในเขตโทษก่อนที่ แฮร์รี่ เคน มือสังหารจะซัดเข้าไปอย่างเฉียบขาดให้ อังกฤษ นำห่าง 2-0 และเป็นประตูที่สองในเกมนี้ของดาวเตะจากสเปอร์ส

ลูกทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ยิ่งเล่นยิ่งดีกดดันแนวรับบัลแกเรียชนิดโงหัวไม่ขึ้น และนาที 55 มาได้ประตูที่สาม หลัง แฮร์รี่ เคน หลุดถึงเส้นหลังทางด้านซ้ายแล้วเปิดเข้ามาหน้ากรอบไม่ถึง 6 หลาให้ ราฮีม สเตอร์ลิง วิ่งมาใช้ต้นขาขวากระแทกบอลเข้าไป อังกฤษ หนีบัลแกเรีย 3-0

นาที 66 “สิงโตคำราม” เปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรก ถอดเอา จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ออกแล้วส่ง เมสัน เมาท์ ลงสนามก่อนอีกสองนาทีต่อมาดาวโรจน์จากสิงห์บลูส์ได้ลองส่องนอกกรอบทักทายแต่บอลเหินคานออกไปไกล

นาที 72 อังกฤษ มาได้ลูกที่จุดโทษอีกครั้งหลัง คริสเตียน ดิมิตรอฟ ตัวสำรองของทีมเยือนไปฟาวล์ใส่ แฮร์รี่ เคน ในเขตโทษ ก่อนเจ้าตัวจะลุกขึ้นมาซัดเข้าไปไม่เหลือให้ ทัพผู้ดีนำโด่ง 4-0 พร้อมเป็นแฮตทริกของดาวเตะวัย 26 ปีในเกมนี้

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม อังกฤษ เปิดเวมบลีย์ไล่ถล่มบัลแกเรียขาดลอย 4-0 เก็บสามแต้มนัดที่ 3 ติดต่อกัน มี 9 คะแนน นำจ่าฝูงกลุ่ม เอ ส่วนบัลแกเรียยังไม่ชนะทีมใด แข่งนัดที่ 5 มีแค่ 2 คะแนนรั้งบ๊วยของกลุ่ม

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม    

 อังกฤษ (4-3-3) : จอร์แดน พิคฟอร์ด – คีแรน ทริปเปียร์, ไมเคิ่ล คีน, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, แดนนี่ โรส – เดแคลน ไรซ์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (เมสัน เมาท์ น.67), รอสส์ บาร์คลี่ย์ – มาร์คัส แรชฟอร์ด, แฮร์รี่ เคน (อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอเลน น.77), ราฮีม สเตอร์ลิง (จาดอน ซานโช่ น.71)

เทรนเนอร์ : แกเร็ธ เซาธ์เกต

บัลแกเรีย (5-4-1) : ปลาเมน อิลิเยฟ – สตราฮิล โปปอฟ, นิโคไล โบดูรอฟ (คริสเตียน ดิมิตรอฟ น.65), จอร์จี้ ซาร์มอฟ, วาซิล โบซิคอฟ, อันตัน เนดยัลคอฟ – กาลิน อิวานอฟ (แดเนี่ยล มลาเดนอฟ น.82), อิเวลิน โปปอฟ, คริสติยาน มาลินอฟ, วานแดร์ซอน – มาร์เซลินโญ่ (คิริล เดสโปดอฟ น.67)

เทรนเนอร์ : คราซิเมียร์ บาลาคอฟ

ผู้ตัดสิน : มาร์โก กุยด้า (อิตาลี)

สรุปผลฟุตบอล ยูโร 2020 รอบคัดเลือก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา

– โคโซโว ชนะ เช็ก 2-1

– อังกฤษ ชนะ บัลแกเรีย 4-0

– ลิทัวเนีย แพ้ ยูเครน 0-3

– ไอซ์แลนด์ ชนะ มอลโดวา 3-0

– เซอร์เบีย แพ้ โปรตุเกส 2-4

– ตุรกี ชนะ อันดอรา 1-0

– ฝรั่งเศส ชนะ แอลเบเนีย 4-1