นักเตะบางคนเหมาะกับบางทีม แต่บางคนก็ไม่เหมาะ อย่างในกรณีของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ประสบความสำเร็จในการเล่นให้ ลิเวอร์พูล แต่ครึ่งหนึ่งเขาไม่สามารถแจ้งเกิดกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ภายใต้การกุมบังเหียนของโชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือชาวโปรตุกีส
“เฮียมู” ดึงตัว โม ซาลาห์ จาก บาเซิ่ล มาเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อปี 2014 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เจ้าตัวกลับมากุมบังเหียนสโมสรเป็นครั้งที่สอง อย่างไรก็ตามนักเตะที่ตอนนั้นอายุเพียง 21 ปี ได้ลงสนามให้กับ เชลซี แค่ 19 เกมก่อนจะโดนปล่อยให้ ฟิออเรนติน่า ยืมตัว ตามด้วย โรม่า ซึ่งสุดท้ายแล้วได้ย้ายไปอยู่ถาวรกับ “หมา

หลังจากนั้น ซาลาห์ กลายเป็นหนึ่งในนักเตะชั้นยอดหลังจากที่้ย้ายมาอยู่กับ "หงส์แดง" โดยเขาทำลายสถิติในการเล่นฤดูกาลแรกในถิ่นแอนฟิลด์ ด้วยการตะบันไป 44 ประตูให้กับทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ รวมทั้งทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และตอนนี้ซัดไปแล้ว 20 ประตูจากการเล่นทุกรายการนำต้นสังกัดมีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 29 ปี

ช่วงที่ผ่านมามีแฟนบอล "สิงห์บลูส์" รู้สึกเสียดายที่ทีมปล่อย ซาลาห์ ไป กระนั้น มูรินโญ่ ไม่ได้รู้สึกเสียดายอะไรเลย เพราะเจ้าตัวยืนยันว่านักเตะต้องการย้ายไปเล่นในอิตาลีด้วยเหตุผลหลายข้อ รวมไปถึงการที่เจ้าตัวไม่เข้าใจ และไม่เหมาะกับระบบการเล่นของเขา

มูรินโญ่ เปิดใจผ่าน "บีอิน สปอร์ตส์" สื่อดังในวงการลูกหนังว่า "เขาย้ายมาที่เชลซี จาก บาเซิ่ล ในฐานะเด็กหนุ่มที่แสนโดดเดี่ยว, ไร้ประสบการณ์, สภาพแวดล้อมทั้งหมด และสภาพร่างกายที่ยังไม่แข็งแกร่ง หลังจากนั้นเขาก็ย้ายไปอิตาลี เขาได้รับประสบการณ์กับ ฟิออเรนติน่า"

"เขามีประสบการณ์กับ โรม่า และเมื่อเขากลับมาอังกฤษ เขาสามารถปรับตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบในการเล่นระดับสูงในวงการฟุตบอลยุโรป เขามีความเข้าใจเกมมากยิ่งขึ้น เขามีสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม และสภาพความฟิตก็มากยิ่งขึ้น รวมทั้งเต็มไปด้วยความมั่นใจ" มูรินโญ่ ระบุ